บินปฐมฤกษ์ เบิกทวาร สะท้านฟ้า ไปอุดรธานีกับบางกอกแอร์เวย์ . . บายแมวเหมียวเสียวทุกทริป

 

สวัสดีนะคะ เพื่อนๆทุกท่าน

รีวิวแรกในชีวิตแมวเหมียวกำเนิดขึ้นมาบนโลกใบนี้แล้ว

เมื่อวันที่ ๒๙ พฤศจิกายนปีที่แล้วแมวเหมียวได้มีโอกาสบินรอบปฐมฤกษ์ไปกับบางกอกแอร์เวย์
เปิดเส้นทางใหม่จาก กรุงเทพ มุ่งสู่ อุดรธานี

วันนี้จะพาเพื่อนๆไปเที่ยวอุดร-หนองคายกันนะคะ
เช้านี้ ฟ้าสวยมาก เพื่อนสาวนัดหกโมครึ่ง แมวเหมียวมาแต่ตีห้าเพราะบ้านห่างจากสนามบินประมาณ ๑๑ กิโลได้
แต่ถ้ารีบมาเพราะ สิบปีแล้วที่ไม่ได้ขึ้นเครื่องบิน กลัวตกเครื่อง

พอมาถึงก็เดินแรดไปแรดมาแถวสนามบินนั่นแหล่ะ ก็เดินสวนกับหนุ่มหน้าตาหล่อเข้มจัด
ที่เป็นเพื่อนอยู่ใน facebook มาหลายปี
แต่ได้มาสวนกันตัวเป็นๆในเที่ยวบินปฐมฤกษ์นี้นี่เอง ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่หล่อมาก
คือเจอผู้ชายหน้าตาดีมีชัยไปกว่าครึ่ง




หลังจากพูดคุยกับหนุ่มคนนั้นสักพัก แมวเหมียวก็ขอถ่ายรูปคู่อัพ facebook เรียบร้อย
ประหนึ่งเดินทางไปด้วยกัน

แท้จริงไปคนละประเทศ

พอได้เวลา หกโมงครึ่งเพื่อนสาวมา ก็พากันเช็คอิน ตื่นเต้นจนจะเป็นลม นึกสภาพสิบปีมาขึ้นเครื่องบินที...







เข้ามาใช้บูติคเล้าจน์ครั้งแรกในชีวิต สิ่งที่พุ่งเป้าไว้คือข้าวต้มมัด ของโปรดแมวเหมียว
ข้าวต้มมัดในตำนาน มันจะมาอยู่ในปากเราแล้ว ฮ่าๆๆๆๆ
 

นี่คือสวรรค์ข้าวต้มมัดของแมวเหมียวนี่เอง ยกตะกร้าขึ้นไปกินบนเครื่องเบาๆ

อุ้ย ลืมโชว์ตั๋ว ทำอะไรต้องมีหลักฐานนะคะ อิอิ

ขึ้นเครื่องกันดีกว่านะคะ

 อยากเปิดลิฟฟิ่งออนอะเจ็ตแพลน เปิดไม่เป็น   ((แล้วนี่มันใช่เจ๊ตแพลนไหม))

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดๆๆๆ อยากได้อ๊ะ แมวอยากได้





เครื่องนิ่งสักพัก ก็ได้เวลาเสริฟอาหาร อร่อยมากเลย ปกติอยู่บ้านทานแต่ข้าวคลุกน้ำพริก นานๆจะทานอาหารฝรั่งที

ว๊ายๆๆๆๆ ได้ของที่ระลึกด้วย ขนมกลีบลำดวนสวยเก๋

เส้นทางเยอะมาก อยากบินไปมัลดีฟกับกิ๊กซะเหลือเกิน

 ในที่สุด แมวก็ได้มาเจอทะเลหมอกบนเครื่องซะที  อิอิ

ข้ามน้ำ ข้ามทะเล ข้ามภูเขามาหลายลูกได้ นั่งตาค้างตะลึง ธรรมชาติช่างงดงาม

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด อุดรธานี ครั้งแรกในชิวีต (อีกแหละ)

เมื่อเดินทางถึงสนามบินอุดรแล้ว  ทางคณะของเราก็ได้เดินทางด้วยรถบัสสองชั้น
เป้าหมายแรกคือ วัดป่าภูก้อน อ.นายูง จ.อุดรธานี

เมื่อขึ้นรถก็ได้รับเอกสารประกอบการเดินทางมากมาย

ที่ห้อยกระเป๋า  น่ารักมากกกกก รถสะเทือน มือสั่นเลย แหะๆ

เดินทางมาได้ประมาณ ๒ ชั่วโมงกว่า ก็ถึงวัดป่าภูก้อน

วัดป่าภูก้อน

        ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่านายูงและป่าน้ำโสม ท้องที่บ้านนาคำ ตำบลบ้านก้อง อำเภอนายูง จังหวัดอุดรธานี อันเป็นรอยต่อแผ่นดิน ๓ จังหวัด คือ อุดรธานี เลย และหนองคาย กำเนิดขึ้นจากการดำริชอบของพุทธบริษัทสี่ ผู้ตระหนักถึงคุณประโยชน์อันยิ่งใหญ่ของธรรมชาติและป่าต้นน้ำลำธาร ซึ่งกำลังถูกทำลาย
         โดยในปี พ.ศ. ๒๕๒๗ พระเดชพระคุณหลวงปู่ฝั้น อาจาโร ได้เมตตาปรากฏในทิพยนิมิต สั่งให้ไปธุดงค์ทางภาคอีสานเป็นเวลา ๑๐ วัน คุณปิยวรรณและคุณโอฬาร วีรวรรณ พร้อมคณะได้เดินทางมาธุดงค์แถบจังหวัดสกลนครและอุดรธานี เกิดความเลื่อมใสในปฏิปทาของพระป่า จึงได้เข้าช่วยเหลือท่านพระอาจารย์อินทร์ถวาย สันตุสสโก สำนักสงฆ์บ้านนาคำน้อย ในการขออนุญาตใช้พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติจัดตั้งเป็นวัดป่านาคำน้อย และปลูกป่าทดแทนฟื้นฟูสภาพป่าเสื่อมโทรมกว่า ๗๕๐ ไร่ อย่างถูกต้องตามระเบียบของกรมป่าไม้ เพื่อใช้ประโยชน์ในการปฏิบัติธรรมและอยู่อาศัยของพระสงฆ์ จากนั้นท่านพระอาจารย์อินทร์ถวายได้พาไปดูป่าภูก้อนที่กำลังถูกสัมปทานตีตรา ตัดไม้ คณะศรัทธาจึงได้ตัดสินใจสร้างวัด โดยกราบอาราธนาท่านพระอาจารย์ชาลี ถิรธัมโม (ปัจจุบันเป็นพระครูจิตตภาวนาญาณ) เป็นประธานและขวัญกำลังใจในการก่อสร้าง และได้ทำเรื่องขอใช้ที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาตินายูง-น้ำโสม เพื่อสร้างวัดในเนื้อที่ ๑๕ ไร่ จากกรมป่าไม้ จนได้รับอนุญาตเมื่อวันที่ ๙ มกราคม ๒๕๓๐ ต่อมาได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกรมการศาสนา จนได้รับอนุญาตให้สร้างวัดในวันที่ ๓ กรกฎาคม ๒๕๓๐ และมีประกาศกระทรวงศึกษาธิการตั้งเป็น ‘วัดป่าภูก้อน’ ขึ้นในพระพุทธศาสนาเมื่อวันที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๓๐
(ข้อมูลจาก http://watpaphukon.org)

ที่วัดป่าภูก้อน เป็นที่ประดิษฐานพุทธมณีอันยิ่งใหญ่ล้ำค่า

"พระพุทธรูปหินขาวปางปรินิพพาน ใหญ่ที่สุดในโลก "

 

เก็บภาพบรรยากาศรอบๆวัดมาฝากนะคะ

วิวทิวทัศน์สวยๆจากบริเวณรอบๆวัด จะเห็นว่าเป็นป่าจริงๆ มิใช่ป่าเล่นๆ
อุ้ย ลืมบอกไปวันที่มาอุดรนี่ เค้าบอกหนาวกว่าเชียงใหม่อีกนะคะ คนที่เพิ่งไปเชียงใหม่มาเล่าให้ฟัง อิอิ
อากาศเป็นใจ เข้าวัดไม่ต้องกลัวร้อน

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ

พระราชทานชื่อพระพุทธไสยาสน์หินอ่อนขาว ว่า “พระพุทธไสยาสน์โลกนาถศาสดามหามุนี”

แปลว่า พระพุทธรูปปางไสยาสน์แห่งพระมหามุนีผู้ทรงเป็นบรมครู ที่ทรงเป็นที่พึ่งของชาวโลก

ตั้งแต่วันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๕๒

หลังจากเราอิ่มบุญอิ่มใจกับเข้าวัดทำบุญแล้ว ทางคณะบางกอกแอร์เวย์ ก็ำนำพาเราไปอิ่มหนำสำราญกันต่อที่ แดงแหนมเนือง หนองคาย ซึ่งเป็นการกินแหนมเนืองที่อร่อยที่สุด และจัดเต็มที่สุดในชิวิตแมว












((ปล ถ่ายมาไม่ครบเมนู เพราะหิวจัด อิอิ))

เมื่ออิ่มแล้ว เราก็ไปเดินเล่น ชิลล์ๆที่ริมน้ำโขง ด้านหลังร้านแดงแหนมเนือง เพื่อกลับไปขึ้นรถนะคะ

หลังจากนั้น เราก็ได้เดินทางมาไหว้พระต่อที่ วัดโพธิ์ชัย จ.หนองคาย

หลวงพ่อพระใส วัดโพธิ์ชัย จ.หนองคาย เป็นพระพุทธรูปสำคัญคู่เมือง ประดิษฐานอยู่ที่วัดโพธิ์ชัย
ซึ่งมีฐานะเป็นวัดอารามหลวง

ตั้งอยู่ที่ถนนโพธิ์ชัย ในเขตเทศบาลเมือง ห่างจากตัวเมืองหนองคายไปประมาณ ๒ กิโลเมตร 

ตามทาง หลวงหมายเลข ๒๑๒ ทางไป อ.โพนพิสัย วัดจะอยู่ทางซ้ายมือ

ประวัติการสร้าง

สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงสันนิษฐานไว้ในหนังสือประวัติพระพุทธรูปสำคัญ ซึ่งพิมพ์แจกในงานทอดกฐินพระราชทาน พ.ศ. ๒๔๖๘ ว่า หลวงพ่อพระใส เป็นพระพุทธรูปหล่อในสมัยล้านช้าง และตามตำนานที่เล่าสืบต่อกันมาว่า พระธิดา ๓ องค์ แห่งกษัตริย์ล้านช้างเป็นผู้สร้าง บางท่านก็ว่าเป็นพระราชธิดาของพระไชยเชษฐาธิราช ได้หล่อพระพุทธรูปขึ้น ๓ องค์ และขนานนาม พระพุทธรูปตามนามของตนเองไว้ด้วยว่า พระเสริมประจำพี่ใหญ่ พระสุกประจำคนกลาง พระใสประจำน้องสุดท้อง มีขนาดลดหลั่นกันตามลำดับ

การประดิษฐาน
เดิมทีนั้นหลวงพ่อพระใสได้ประดิษฐาน ณ เมืองเวียงจันทน์ พ.ศ. ๒๓๒๑ สมัยกรุงธนบุรีได้อัญเชิญไปไว้ที่เมืองเวียงคำ และถูกเชิญมาประดิษฐานไว้ที่วัดโพนชัย เมืองเวียงจันทน์อีก ต่อมาในรัชกาลที่ ๓ เจ้าอนุวงศ์ เมืองเวียงจันทน์เป็นกบฎ สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิ์พลเสพย์ เป็นจอมทัพยกพลมาปราบ จึงได้อัญเชิญพระสุก พระเสริม และพระใส ลงมาด้วย โดยอัญเชิญมาจากภูเขาควายขึ้นประดิษฐานบนแพไม้ไผ่ ซึ่งผูกติดกันอย่างมั่นคงล่องมาตามลำน้ำงึม เมื่อล่องมาถึงตรงบ้านเวินแท่นในขณะนั้น เกิดอัศจรรย์แท่นของพระสุกได้เกิดแหกแพจมลงไปในน้ำ โดยเหตุที่มีพายุพัดแรงจัด และบริเวณนั้นได้นามว่า "เวินแท่น"



เป็นพระพุทธรูปขัดสมาธิราบ ปางมารวิชัย หล่อด้วยทองสีสุก
หน้าตักกว้าง ๒ คืบ ๘ นิ้ว ส่วนสูงจากพระชงฆ์เบื้อล่างถึงยอดพระเกศ ๔ คืบ ๑ นิ้วของช่างไม้



เช้าวันถัดมา ทางบางกอกแอร์เวย์ก็ได้นำคณะพาหม่ำไข่กะทะกันแต่เช้า คิงส์โอชา สุดยอดไข่กระทะ
ตั้งอยู่ที่ ถนนสี่ศรัทธา, หมากแข้ง, อ.เมืองอุดรธานี หมากแข้ง , เมืองอุดรธานี , อุดรธานี

ร้านนี้เปิดมานานกว่า ๓๐ ปี ขึ้นชื่อด้วยเมนูไข่กระทะที่เขาจะใส่หมูยอ กุนเชียง และหมูบะช่อโรยหน้า ทานกับขนมปังฝรั่งเศส
ที่คนพื้นเมืองเรียกว่าแป้งจี่ จิบคู่กับชา กาแฟ หรือน้ำส้มก็ได้ อีกเมนูนึงที่คนชอบสั่งคือ สตูว์ซี่โครงหมู
นอกจากที่ร้านคิงส์แล้ว ยังมีร้านเอมโอช ที่ก็ดังไม่แพ้กัน แถมยังมีทั้งที่อุดรและขอนแก่นด้วย



ปกติอยู่บ้านก็แมวเล่นไข่ทุกวันอยู่แล้ว วันนี้ได้มีโอกาสมาเล่นไข่นอกสถานที่
ช่างปลาบปลื้มใจเป็นยิ่งนัก

มาอุดรธานีทั้งที กิจกรรมที่พลาดไม่ได้ทั้งปวงคือ

การชมทะเลบัวแดง หนองหาน กุมภวาปี

ซึ่ง ดอกบัวจะเริ่มบานในช่วงปลายเดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์ ของทุกปี

แต่ช่วงที่แมวเหมียวมา บัวก็ยังไม่เยอะมากนะคะ เพราะมาต้นเดือนธันวา

แต่ก็ภาพที่สวยงามติดตาตรึงใจใปในบันทึกชีวิตแมวเหมียวเหมือนกัน

ว่าแล้วก็มาลงเรือน้อยลอยลำกันเถอะนะคะ

จริงๆแล้วช่วงที่เหมาะกับการชมบัวคือช่วงเช้า แต่แมวเหมียวมาถึงก็เกือบ ๑๐ โมงครึ่งแล้ว 

แต่อากาศหนาวก็โออยู่นะ

แต่เสียแมวเหมียวเสียท่าไปเลือกนั่งเรือที่จอดไม่ได้ ลุงบอกว่าถ้าจอดเครื่องอาจจะดับ 

เราอาจจะต้องช่วยกันพายกลับ ฮือๆๆ แต่ข้อดีคือเรือลำนี้จะได้ตีโค้งไปไกลกว่าลำอื่น 

ทำให้ได้เห็นในมุมมองที่เพื่อนร่วมทริปกำลังหยุดเรือถ่ายภาพกับบึงบัวกัน อย่างสนุกสนาน 

ชีช้ำกะกล่ำปลีดอง

เสียว เอ้ย..สวยไหมคะ ท่านผู้ชม

เนื่องจากต้องถ่ายภาพทั้งที่ๆเรือจอดไม่ได้ บัวน้องแมวก็เลยสั่นเคลืออย่างที่เห็น

ลำดับต่อไป น้องแมวจะพาไปป่าคำชะโนด กันนะคะ

กลัวผีกันไหมนะคะ ถ้ากลัวผีรับรองว่าถ้าเจอแมวเหมียวเสียวตัวเป็นๆ จะเลิกกลัวผี เพราะแมวเหมียวน่ากลัวฝ่า  

เพื่อสร้างอรรถรสในการติดตามเรื่องราว แนะนำให้ดูคลิ๊ปไปพลาง

https://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=A3zg2vxSoqM



วัดศิริสุทโธ หรือ วัดคำชะโนด   เคยได้ยินตำนานผีจ้างหนังมาบ้างไหมคะ
แมวเคยได้ยินบ่อยๆ แต่ก็ไม่เคยคาดคิดว่าจะได้มาสถานที่แห่งนี้
ร่องรอยและเรื่องราวเกี่ยวกับพญานาคก็เกิดขึ้นที่นี่





เมื่อไปถึงด้านหน้าวัด จะพบพระพุทธรูปองค์ใหญ่อยู่ภายนอก



ทางเดินเข้าไปในบริเวณวัดจะเป็นรูปตัวพญานาคขนาดบิ๊กเบิ้ม









กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด เจออาถรรพ์ ภาพกลายเป็นขาว-ดำ



เนื่องจากเป็นวันใกล้หวยจะออก ระหว่างทางเราก็จะเจอผีนางขูด แอร๊ยยยยยยยย





ระหว่างทางเดินเข้าก็เริ่มเสียวมาตลอด โดยเฉพาะผู้ชายด้านหน้าแมว เสียวสันหลังวาบๆๆๆ
เพราะแมวตามประกบ











แล้วเราก็ได้เดินมาถึงศาลเจ้าพ่อพระยาศรีสุทโธที่ ชาวบ้านให้ความเคารพนับถือ
ในความศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างยิ่งตามเรื่องเล่าสืบต่อกันมาว่าเป็นพญานาคราช ที่อาศัยอยู่ในเมืองบาดาล
และใช้เมืองคำชะโนดแห่งนี้ เป็นที่ขึ้นลงติดต่อระหว่างเมืองบาดาลกับเมืองมนุษย์





พอมาถึงในบริเวณวัด จะมีควันธูปลอยตลบอบอวลไหมหมด คล้ายๆเมืองในหมอก
สบายแหล่ะ ทริปนี้ได้เจอหมอกตอนกลางวันแสกๆ





ป่าคำชะโนด หรือ เมืองชะโนด หรือ วังนาคินทร์คำชะโนด ตั้งอยู่ในพื้นที่ ๓ ตำบล คือ ตำบลวังทอง, ตำบลบ้านม่วง และตำบลบ้านจันทร์ ใน อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี เป็นป่าที่มีลักษณะเหมือนเกาะขึ้นอยู่กลางทุ่งนา เต็มไปด้วยต้นชะโนด ซึ่งเป็นพืชจำพวกปาล์ม ความยาวประมาณ ๒๐๐ เมตร ป่าคำชะโนดเป็นสถานที่ๆปรากฏในตำนานพื้นบ้าน เป็นสถานที่ ๆ เชื่อว่า เป็นที่สิงสถิตของพญานาคและ สิ่งลี้ลับต่าง ๆ บ่อยครั้งที่ชาวบ้านในละแวกนั้นจะพบเห็นชาวเมืองชะโนดไปเที่ยวงานบุญพระเวท รวมถึงหญิงสาวที่มายืมเครื่องมือทอผ้าอยู่เป็นประจำ และเมื่อเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ในที่ราบลุ่มแม่น้ำโขง รวมถึงที่อำเภอบ้านดุง แต่น้ำก็ไม่ท่วมบริเวณคำชะโนด เมื่อระดับน้ำลดลง คำชะโนดก็ยังคงอยู่เช่นเดิม





ไม่เชื่อก็อย่าหลบหลู่ เป็นคำที่เราได้ยินกันบ่อยเวลามาก ยิ่งเวลามาสถานที่แบบนี้

นอกจากจะมีเรื่องเล่าผีจ้างหนังที่ป่าคำชะโนดแล้ว ป่าคำชะโนดผืนป่าแห่งนี้ยังมีเรื่องน่าประหลาดอีกเรื่องคือ  เวลาน้ำแล้งก็จะเห็นว่าดินเชื่อมต่อกันไม่มีอะไร แต่เวลาน้ำท่วม ที่ดินรอบๆ จะท่วมหมด
แต่ปรากฏว่าป่าคำชะโนดนี้น้ำไม่ท่วม น้ำขึ้นสูงอย่างไรก็ไม่ท่วม  ชาวบ้านจึงเชื่อว่า เกาะนี้ลอยน้ำได้ และเชื่อว่าที่เป็นเช่นนี้เพราะเจ้าที่เป็นคนทำไม่ให้ผืนป่าคำชะโนดแห่งนี้ จมน้ำ. . .

เดิมทีคนท้องถิ่นจะเรียกที่นี่ว่า "วังนาคินทร์คำชะโนด" ที่มาก็คือมีบ่อน้ำอยู่กลางดงป่าคำชะโนด
เป็นบ่อน้ำขนาดเล็กๆ แต่กลับมีน้ำซึมออกมาตามธรรมชาติตลอดเวลา
ทำให้ชาวบ้านเชื่อกันว่าบ่อน้ำประทานมาให้โดยพญานาคที่อาศัยอยู่ในบริเวณผืน ป่า
สำหรับบ่อน้ำในป่าคำชะโนด ว่ากันว่าเป็นบ่อน้ำที่ความศักดิ์สิทธิ์อย่างมาก

แต่โดยส่วนตัวแล้วแมวเหมียวเฉยๆกับเรื่องน้ำมนต์หรือน้ำศักดิ์สิทธิ์ ให้ความสำคัญกับเรื่องน้ำสะอาด หรือน้ำสกปรกมากกว่า
ก็เหมือนใจคนถ้าสกปรกก็เป็นทุกข์ ถ้าใสสะอาดก็สงบ ร่มเย็น เป็นสุข  

อีกหนึ่งในสถานที่แมวเหมียวประทับใจมากคือการได้มากราบหลวงตามหาบัว
ที่วัดป่าบ้านตาด อุดรธานี
และตามที่เคยได้รับรู้ถึงคุณงามความดีที่หลวงตาได้ทำเพื่อประเทศชาติเสมอมา
เมื่อได้มากราบน้ำตาก็ไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว



พระธรรมวิสุทธิมงคล (บัว ญาณสมฺปนฺโน) หรือที่มักรู้จักในนามหลวงตามหาบัว
(๑๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๕๖ - ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๔) เป็นพระภิกษุชาวจังหวัดอุดรธานี
สังกัดคณะสงฆ์ธรรมยุติกนิกาย ฝ่ายวิปัสสนาธุระ อดีตเจ้าอาวาสองค์แรกของวัดป่าบ้านตาด
ท่านเป็นศิษย์ของพระครูวินัยธร (มั่น ภูริทตฺโต)) ซึ่งได้มีโอกาสอุปฐากรับใช้หลวงปู่มั่นในช่วงปัจฉิมวัย
และเป็นผู้หนึ่งที่ได้บันทึกประวัติของหลวงปู่มั่นโดยละเอียดในเวลาต่อมา

หลวงตามหาบัวเป็นที่รู้จักในฐานะพระนักปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานผู้มีปฏิปทาที่มั่นคง แน่วแน่
เด็ดขาด และจริงจัง
บรรดาศิษยานุศิษย์ของหลวงปู่มั่นต่างนับถือกันว่าท่านเป็นลูกศิษย์องค์หนึ่งที่มีปฏิปทา
ที่คล้ายคลึงกับหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต การกล่าวขวัญถึงท่านในหมู่ผู้ศรัทธา
มีหลายเรื่องค่อนไปในเชิงอภินิหาร
เช่น การล่วงรู้วาระจิตของบุคคลอื่น การที่เศษผม เศษเล็บ
และชานหมากของท่านกลายเป็นพระธาตุไปตั้งแต่ครั้งท่านยังมีชีวิตอยู่ เป็นต้น



และแล้วการมาเที่ยวอุดรธานีครั้งแรกในชิวิตแมวเหมียว ก็เป็นอีกหนึ่งความประทับใจในชีวิต
ไม่ว่าจะเป็นทะเลบัวแดงที่สวยงาม กว้างใหญ่ สุดลูกหูลูกตา
วัดป่าภูก้อนที่สวยงาม และร้านแดงแหนมเนืองที่อร่อยมากกกกกกกก ฯลฯ

ขอขอบพระคุณสายการบินบางกอกแอร์เวย์ที่จัดทริปนี้ขึ้นมา

ขอบคุณพี่ดาว น้องออฟฟี่ และผู้ประสานงานต่างๆ ของบางกอกแอร์เวย์
ขอบคุณน้องนุ่นที่ชวนเค้าไป ไม่งั้นคงไม่ได้ไป 55555555+
ขอบคุณ เหาคุงที่ตั้งชื่อให้แมวเหมียวตลอดมา หลายสิบชื่อแหล่ะ 

ช่วยปรู๊ฟปกให้หลายสิบรอบกว่าจะผ่านได้
ขอบคุณวีวี่จะที่ตัดชุดไทยให้แมวเหมียวใส่เวลาเข้าวัด
ขอบคุณเพื่อนๆที่มาร่วมให้กำลังใจ